หลุยส์ เอ็นริเก้ กุนซือ ปารีส แซงต์-แชร์กแมง รู้สึกไม่ยุติธรรมเพราะคิดว่าสมควรเป็นผู้ชนะ แล้วสุดท้ายกลับพลิกแพ้ โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ตกรอบตัดเชือก แต่ยังหนุนหลังคู่แข่งจาก บุนเดสลีก้า ให้ไปถึงตำแหน่งแชมป์
เปแอสเช แพ้เลกแรก 1-0 แล้วกลับมาเล่นในบ้านโดนสกอร์เดิมจากลูกโขกต้นครึ่งหลังของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ทำให้ต้องรอคอยการเข้าชิงต่อไป หลังจากเคยทำได้เมื่อ 4 ปีก่อน
สถิติหลังแข่งเปิดเผยทีมของ เอ็นริเก้ สร้างโอกาสยิงไป 30 ครั้ง มากที่สุดนับตั้งแต่มีการเก็บสถิติรอบน็อคเอาท์ แถมชนเสา-คานมากสุดเช่นกันด้วยจำนวน 4 ครั้ง
“มันเป็นเกมที่สูสี แต่พูดตามตรงคือผมคิดว่าเราสมควรเป็นผู้ชนะ เราสร้างโอกาสยิง 31 ครั้ง และชนเสาไป 4… บางครั้งฟุตบอลก็ไม่ยุติธรรมสุดๆ” เฮดโค้ชชาวสเปน เปิดใจที่ ปาร์ค เดอ แปรงส์
“เราต้องการสร้างผลงานพิเศษในรายการนี้ และมันเป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้า แต่ปีหน้าเราจะกลับมาพยายามอีกครั้งเพื่อไปถึงแชมป์ให้ได้”
“ต้องแสดงความยินดีกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วย พวกเขาคือทีมที่ยอดเยี่ยม และผมหวังว่าพวกเขาจะสามารถคว้าแชมป์สำเร็จ”
นาสเซอร์ อัล-เคไลฟี่ ประธานสโมสร เปแอสเช ให้สัมภาษณ์เแสดงความรู้สึกคล้ายกัน “เราผิดหวังและเสียใจอย่างมาก ผมคิดว่าเราควรได้ผลการแข่งทีกว่านี้”
“เราเป็นทีมที่ดีกว่า ยิงชนเสาและคานหลายครั้ง ทั้งในเกมนี้และที่ ดอร์ทมุนด์ มันเตึงป็นเรื่องยากเมื่อทำยังไงลูกบอลก็ไม่เข้าประตู”
“ต้องแสดงความยินดีกับ ดอร์ทมุนด์ ด้วยแต่ผมภาคภูมิใจในทีมของเรา เราคือทีมที่อายุน้อยสุดในยุโรป และเป็นการเข้าถึงรอบตัดเชือก 3 ครั้งตลอด 5 ปีหลัง แน่นอนว่านั่นไม่ใช่เป้าหมาย แต่นี่คือฟุตบอล และบางครั้งมันไม่ยุติธรรม”