ลิเวอร์พูล – ไบรท์ตัน (20:00 น.)
ลิเวอร์พูล จะต้องรอประเมินความพร้อมของ แอนดี้ โรเบิร์ตสัน ที่อาการเจ็บข้อเท้าไม่ได้หนักหนาเหมือนอย่างที่กังวลกันในทีแรก
พวกเขายังได้ เคอร์ติส โจนส์, ดาร์วิน นูนเญซ และ อิบราฮิม่า โคนาเต้ ลงซ้อมกันหมดและน่าจะฟิตพอ แต่ก็ยังขาด ดิโอโก้ โชต้า, อลิสซอน และ เทรนท์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์ ตามเดิม
ทางด้าน ไบรท์ตัน อาจได้นักเตะแบบ เจา เปโดร และ เจมส์ มิลเนอร์ กลับมาช่วยทีม ส่วนคนที่คัมแบ็คแน่นอนคือ บิลลี่ กิลมอร์ พ้นโทษแบนแล้ว
กระนั้น แจ๊ค ฮินเชลวูด, ซอลลี่ มาร์ช และ คาโอรุ มิโทมะ ยังต้องพักรักษาตัวต่อไป
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– หนเดียวที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรท์ตัน ได้จากการพบกัน 7 เกมหลังสุดในพรีเมียร์ลีกคือเกมไปเยือนเมื่อเดือนมีนาคม 2022 (เสมอ 4 แพ้ 2)
– ตอนนี้ ลิเวอร์พูล ไร้พ่ายในเกมเหย้ามา 31 เกมติดต่อกันในทุกรายการ (ชนะ 26 เสมอ 5)
เบน ฟรีคิกฟันธง : ลิเวอร์พูล ชนะ 2-1
แมนเชสเตอร์ ซิตี้ – อาร์เซน่อล (22:30 น.)
แมนฯ ซิตี้ จะขาดทั้ง จอห์น สโตนส์ และ ไคล์ วอล์คเกอร์ ที่พบกับอาการบาดเจ็บระหว่างเดินทางไปเล่นทีมชาติ อังกฤษ
มานูเอล อคานยี, เควิน เดอ บรอยน์ และ มาเธอุส นูเนส ต่างผ่านการทดสอบความฟิตทั้งหมดและ เอแดร์ซอน ก็หายจากอาการเจ็บกล้ามเนื้อน่าจะกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้ง
ขณะที่ มิเกล อาร์เตต้า เฮดโค้ชของ อาร์เซน่อล เปิดเผยว่ามีโอกาสที่สามสหายอย่าง กาเบรียล มากัลเญส, บูคาโย่ ซาก้า และ กาเบรียล มาร์ติเนลลี่ จะฟิ้นตัวกลับมาทันเกมนี้
ดาบิด ราย่า ก็จะหวนกลับมาเฝ้าเสาอีกครั้งหลังไม่ได้ลงเล่นในเกมที่เจอ เบรนท์ฟอร์ด ต้นสังกัดของเขา
เก็บตกสถิติเล็กน้อย
– แมนฯ ซิตี้ ผ่านการเก็บชัยชนะเกมเหย้าเหนือ อาร์เซน่อล มา 8 เกมติดต่อกันในทุกรายการ นับตั้งแต่ที่เสมอ 2-2 ในลีกเมื่อปี 2016
– ถึงอย่างนั้น อาร์เซน่อล เป็นฝ่ายกำชัยในเกมที่พบกันเมื่อเดือนตุลาคมและหยุดสถิติแพ้ต่อ แมนฯ ซิตี้ 12 นัดรวดในลีก
– ตอนนี้ แมนฯ ซิตี้ ยังไร้พ่ายกับการลงสนามในรังเหย้ามา 38 เกมติดในทุกรายการ (ชนะ 33 เสมอ 5)
– กลับกัน อาร์เซน่อล ฟอร์มร้อนแรงตั้งแต่ขึ้นปี 2024 โดยผ่านการเอาชนะตลอดทั้ง 8 นัดในพรีเมียร์ลีก แถมยิงไป 33 ลูกและเสียเพียงแค่ 4 ประตูเท่านั้น
เบน ฟรีคิกฟันธง : เสมอ 3-3