วันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม 2567
เซลต้า บีโก้ – ราโย บาเญกาโน่ (19:00 น.)
เซลต้า บีโก้ ภายใต้การคุมทีมของ เคลาดิโอ กิรัลเดซ สามารถคว้าชัยได้สำเร็จตั้งแต่นัดแรกที่คุมทัพ ด้วยการเอาชนะ เซบีญ่า 2-1 แต่นั่นก็ยังไม่ได้ทำให้พวกเขารอดปลอดภัยเมื่อห่างจากโซนตกชั้นเพียง 2 แต้มเท่านั้น
นัดนี้เจ้าบ้านขาดตัวเจ็บหลายรายทั้ง เรนาโต้ ทาเปีย, มิไฮโล ริสติช, วิลล็อต สเวดเบิร์ก, ฆาบี้ มานกีโญ่, ลูก้า เด ลา ตอร์เร่, คาร์ลอส โดตอร์ และ โจเซฟ ไอดู
ในขณะที่ ราโย บาเญกาโน่ เข้าสู่เกมนี้หลังจากเอาชนะ เรอัล เบติส 2-0 เป็นการหยุดสถิติไร้ชัย 9 นัดติดต่อกันได้สำเร็จ อันดับตอนนี้อยู่ที่ 16 ห่างจากโซนตกชั้น 4 คะแนน
สภาพความพร้อมของทีมเยือนยังขาด กิเก้ เปเรซ กับ ดิเอโก้ เมนเดซ เท่านั้นที่เดี้ยง ส่วน ราอูล เดอ โทมัส กับ ฟลอริยอง เลอเฌิน ติดโทษแบน
สถิติที่น่าสนใจ
• เจอกัน 5 นัดหลัง เซลต้า บีโก้ ชนะ 2 เสมอ 3
• ราโย บาเญกาโน่ บุกเอาชนะ เซลต้า บีโก้ ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2013
• ราโย บาเญกาโน่ แพ้เกมเยือน 4 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เซลต้า บีโก้ 3-0, ราโย บาเญกาโน่ 0-0)
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
กิโรน่า – เรอัล เบติส (21:15 น.)
กิโรน่า ฟอร์มเริ่มแผ่วชัดเจนหลังนัดล่าสุดแพ้ให้กับ เกตาเฟ่ 1-0 พร้อมกับเสียตำแหน่งรองจ่าฝูงเป็นที่เรียบร้อย และตามหลัง บาร์เซโลน่า ที่เพิ่งชนะเมื่อคืนที่ผ่านมาเป็น 5 แต้มแล้ว
สภาพความฟิตของนักเตะเกมนี้ยังขาดแข้งเดี้ยงหลายรายทั้ง บอร์ฆา การ์เซีย, มิเกล กูเตียร์เรซ, ยานเคล เอร์เรร่า, ริการ์ด อาร์เตโร่ และ โทนี่ บีญ่า แถมมาเสีย ซาวิโอ ที่ติดโทษแบนอีกด้วย
ทางด้าน เรอัล เบติส ฟอร์มรูดช่วงหลังเมื่อแพ้ 3 เกมติดต่อกัน แต่ทีมของ มานูเอล เปเญกรินี่ ยังอยู่อันดับที่ 7 มีลุ้นโควตาฟุตบอลยุโรป ตามหลัง เรอัล โซเซียดาด อันดับ 6 อยู่ 4 แต้ม
นัดนี้ทีมเยือนยังไม่สามารถใช้งาน มาร์ค โรก้า, ยุสเซฟ ซาบาลี่, เซดริค บากัมบู และ มาร์ค บาร์ตร้า ที่เจ็บแต่ได้ข่าวดีเมื่อ เอเซเกียล อาบิล่า พ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง
สถิติที่น่าสนใจ
• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล เบติส ชนะ 4 เสมอ 1
• กิโรน่า ไม่แพ้เกมเหย้า 11 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
• เรอัล เบติส แพ้ 3 นัดหลังสุดในลีก
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล เบติส 2-1, กิโรน่า 1-2)
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
เดปอร์ติโบ อลาเบส – เรอัล โซเซียดาด (23:30 น.)
สถานการณ์ปัจจุบันของ เดปอร์ติโบ อลาเบส ถือว่าดีทีเดียวเพราะอยู่ห่างจากโซนตกชั้นอยู่ 7 แต้ม โดยปัจจุบันทีมของ หลุยส์ การ์เซีย รั้งอันดับที่ 13 แม้ว่านัดล่าสุดแพ้ให้กับ แอธเลติก บิลเบา 2-0 ก็ตาม
สภาพความพร้อมของนักเตะนัดนี้ขาดเพียง อเล็กซานดาร์ เซดลาร์ ที่เจ็บเข่าต้องพักยาว และ อาเดรียน โรดริเกซ ส่วนที่เหลือพร้อมเป็นตัวเลือก
ทางด้าน เรอัล โซเซียดาด เอาชนะ กาดิซ 2-0 ในเกมที่แล้ว เป็นการคว้าชัยติดต่อกันอีกครั้ง หลังจากก่อนหน้านั้นฟอร์มดร็อปอย่างน่าใจหาย ตอนนี้ทีมของ อิมานอล อัลกัวซิล อยู่อันดับ 6
ทีมเยือนอดใช้งาน บราอิซ เมนเดซ, อัลบาโร่ โอดริโอโซล่า, การ์ลอส เฟร์นานเดซ, มาร์ติน เมร์เกลันซ์ และ ไอเฮน มูนญอซ ที่เจ็บ ขณะที่ โรบิน เลอ นอร์มันด์ ติดโทษแบน
สถิติที่น่าสนใจ
• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล โซเซียดาด ชนะ 3 เสมอ 2
• เรอัล โซเซียดาด บุกเอาชนะ เดปอร์ติโบ อลาเบส ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2019
• เรอัล โซเซียดาด ยิงประตูได้ 7 เกมติดต่อกันรวมทุกรายการ
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
เรอัล มาดริด – แอธเลติก บิลเบา (02:00 น.)
เรอัล มาดริด กำลังอยู่ในเส้นทางที่ดีในการคว้าแชมป์ลาลีกา พวกเขาบุกเอาชนะ โอซาซูน่า 4-2 ก่อนเข้าสู่เกมนี้ และต้องการคว้าชัยเพื่อหนี บาร์เซโลน่า เป็น 8 แต้มอีกครั้ง
สภาพความพร้อมของเจ้าบ้านนัดนี้ยังไร้ ดาวิด อลาบา กับ ธิโบต์ คูร์กตัวส์ ที่เจ็บยาว แต่ได้ เอแดร์ มิลิเตา หายเดี้ยงกลับมาเป็นตัวเลือกอีกครั้ง ส่วน วินิซิอุส จูเนียร์ ติดโทษแบน เพราะงั้น บราฮิม ดิอาซ น่าจะได้ลงตัวจริงแทน
ทางด้าน แอธเลติก บิลเบา เอาชนะ อลาเบส 2-0 ก่อนเบรคทีมชาติ พร้อมทำแต้มแซงหน้า แอตเลติโก้ มาดริด ขึ้นไปอยู่อันดับที่ 4
นัดนี้ทีมเยือนขาด นิโก้ วิลเลี่ยมส์ ที่เจ็บกล้ามเนื้อ ซึ่งคาดว่า เอร์เนสโต้ บัลเบร์เด้ จะให้โอกาส อเล็กซ์ เบเรนเกอร์ ลงเป็นตัวจริง
สถิติที่น่าสนใจ
• เจอกัน 5 นัดหลัง เรอัล มาดริด ชนะ 3 แอธเลติก บิลเบา ชนะ 1 เสมอ 1
• แอธเลติก บิลเบา บุกเอาชนะ เรอัล มาดริด ครั้งสุดท้ายเมื่อปี 2005
• เรอัล มาดริด ชนะเกมเหย้า 3 นัดหลังสุดในลีก
• เรอัล มาดริด ไม่แพ้ 12 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
• แอธเลติก บิลเบา ไม่แพ้ 4 นัดหลังสุดรวมทุกรายการ
• ผลการเจอกันเมื่อซีซั่นที่แล้ว (เรอัล มาดริด 1-1, แอธเลติก บิลเบา 0-2)